ในปัจจุบันรูปแบบ ขนาดและฟังก์ชั่นในการทำงาน

GPS มาตรฐานกรมการขนส่งทางบก – อุปกรณ์บังคับติดตั้งที่รถโดยสาร รถบรรทุก และรถขนส่งต้องมี
ในยุคที่การเดินทางและการขนส่งกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
เรื่องความปลอดภัย การควบคุม และการตรวจสอบพฤติกรรมผู้ขับขี่กลายเป็นสิ่งสำคัญ
ไม่เพียงแต่เพื่อความมั่นใจของเจ้าของธุรกิจหรือองค์กร
แต่ยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับความปลอดภัยของผู้โดยสารและผู้ใช้ถนน

กรมการขนส่งทางบก จึงได้กำหนดให้รถประเภทต่างๆ ที่อยู่ในเกณฑ์ต้องติดตั้ง GPS Tracking พร้อมระบบอ่านบัตรพนักงานขับรถ (RFID) เพื่อควบคุมและตรวจสอบการใช้รถแบบเรียลไทม์

และในภาพที่คุณเห็น คือหนึ่งในอุปกรณ์ที่ ผ่านการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก
ใช้งานได้จริง ถูกต้องตามมาตรฐาน และได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ


อุปกรณ์นี้คืออะไร? และเหมาะกับใครบ้าง?
ในภาพประกอบคือชุดอุปกรณ์ GPS ที่สามารถติดตั้งกับรถได้ทุกประเภทที่กฎหมายกำหนด เช่น:

รถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป
รถโดยสารประจำทาง
รถขนส่งสารเคมี วัตถุอันตราย
รถขนส่งสินค้า
รถโรงงาน/องค์กรที่ต้องการควบคุมพนักงานขับรถ
รถของรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานราชการ
ตัวอุปกรณ์มีความสามารถในการ:

ติดตามตำแหน่งแบบเรียลไทม์ผ่านเครือข่าย 3G
บันทึกเส้นทางย้อนหลังได้ยาวนาน
แจ้งเตือนการขับขี่ผิดปกติ เช่น ความเร็วเกิน พักนาน หรือหยุดฉุกเฉิน
มีระบบรูดบัตรขับรถ (RFID Reader) เพื่อยืนยันตัวตนผู้ขับขี่ก่อนใช้งาน

ทำไมต้องใช้ GPS ที่ผ่านการรับรอง?
กรมการขนส่งทางบกออกประกาศบังคับให้รถบางประเภทต้องติดตั้งอุปกรณ์ GPS
และไม่ใช่แค่ “GPS อะไรก็ได้” แต่ต้องเป็นอุปกรณ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเท่านั้น

อุปกรณ์ในภาพนี้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติจากหน่วยงานกลาง
สามารถส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบกลางของกรมการขนส่ง (DLT GPS Center) ได้อย่างถูกต้อง
เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบข้อมูลของรถได้ทันทีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

หากคุณติดตั้ง GPS ที่ไม่ได้รับรอง จะถือว่า “ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย”
และอาจถูกปฏิเสธการต่อภาษี หรือถูกลงโทษตามที่กฎหมายกำหนด


จุดเด่นของอุปกรณ์นี้
1. เชื่อมต่อกรมการขนส่งโดยตรง
อุปกรณ์จะส่งข้อมูลตำแหน่ง เวลา ความเร็ว การหยุดรถ และพฤติกรรมขับขี่
เข้าสู่ระบบของกรมการขนส่งทางบกโดยอัตโนมัติ
เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้ทุกเวลา และใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมายหากเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉิน


2. ระบบรูดบัตรพนักงานขับรถ
ก่อนเริ่มใช้งานรถ พนักงานต้องรูดบัตรพนักงานขับรถ (ตามมาตรฐานกรมการขนส่ง)
เพื่อยืนยันตัวตนก่อนสตาร์ทรถ
ระบบจะบันทึกข้อมูลว่า “ใครขับรถในช่วงเวลาไหน”
และผูกข้อมูลการขับขี่กับผู้ขับได้อย่างแม่นยำ

ช่วยให้ผู้ประกอบการตรวจสอบความรับผิดชอบได้
และลดปัญหาการแอบใช้รถ หรือการใช้รถโดยผู้ไม่มีใบอนุญาต


3. รายงานย้อนหลังและระบบแจ้งเตือน
สามารถดูรายงานย้อนหลังได้หลายรูปแบบ เช่น:

เส้นทางการเดินรถ
เวลาการขับขี่และหยุดพัก
ความเร็วตลอดเส้นทาง
เวลาการรูดบัตร และเปลี่ยนคนขับ
รวมถึงระบบแจ้งเตือนเมื่อ:

ขับเร็วเกินกำหนด
ขับต่อเนื่องโดยไม่พัก
รถหลุดจากเส้นทางที่กำหนด
มีการปลดสายไฟ/ถอดเครื่อง

รองรับระบบบริหารจัดการรถแบบครบวงจร
นอกจากการติดตามและตรวจสอบ
อุปกรณ์นี้ยังสามารถนำข้อมูลไปใช้ต่อในระบบบริหารจัดการรถยนต์ได้ เช่น:

วางแผนเส้นทางการขนส่ง
วิเคราะห์ประสิทธิภาพของพนักงาน
จัดตารางเวลาการทำงาน
เพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง
ลดต้นทุนการซ่อมบำรุงจากการขับขี่ไม่เหมาะสม

ความน่าเชื่อถือจากแบรนด์ GPS ThaiCar
แบรนด์ GPS ThaiCar เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่อยู่ในรายการผู้ผลิต/จำหน่ายอุปกรณ์ GPS ที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก
และมีประสบการณ์ดูแลลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนมายาวนาน

บริการติดตั้งรวดเร็ว ครอบคลุมทั่วประเทศ
พร้อมทีมช่างมืออาชีพและฝ่ายซัพพอร์ตให้คำปรึกษา


ความคุ้มค่าในระยะยาว
การติดตั้งอุปกรณ์ GPS ตามมาตรฐาน ไม่เพียงแค่ทำให้คุณ “ต่อภาษีได้” หรือ “ไม่ผิดกฎหมาย”
แต่ยังช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการทรัพย์สินอย่างมีประสิทธิภาพ
ลดต้นทุนการดำเนินงาน
และช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า หรือคู่ค้าทางธุรกิจของคุณ


สรุป
หากคุณกำลังมองหา GPS สำหรับรถโดยสาร รถบรรทุก หรือรถในระบบราชการ
ที่ “ถูกต้องตามมาตรฐานกรมการขนส่ง”
พร้อม “ระบบรูดบัตรผู้ขับขี่” และ “การส่งข้อมูลเข้า DLT GPS Center” ได้โดยตรง
อุปกรณ์ในภาพนี้คือคำตอบที่ใช่

เชื่อมโยงข้อมูลครบ
ควบคุมคนและรถได้จริง
ปลอดภัยตามกฎหมาย
พร้อมทีมช่างมืออาชีพติดตั้งให้ทั่วประเทศ

สนใจติดต่อสอบถาม
080-295-6052
080-295-1830