424 จำนวนผู้เข้าชม |
GPS ติดตามรถยนต์(GPS Tracking) นั้นมีให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ราคาหลักพันไปจนถึงราคาหลักหมื่น ดังนั้นจึงควรศึกษารายละเอียดให้ดีที่สุดก่อนจะตัดสินใจเลือกใช้งาน ซึ่งเจ้าตัว GPS Tracking นี้ สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, ร้านประดับยนต์, หาซื้อตามแหล่งช็อปปิ้งออนไลน์ หรือจะติดต่อกับซัพพลายเออร์ที่ขายผลิตภัณฑ์นี้โดยตรง
GPS ที่ใช้กับรถยนต์ในปัจจุบันนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทคือ GPS Navigator(อุปกรณ์สำหรับนำทาง) และ GPS Tracking(อุปกรณ์สำหรับติดตามวัตถุ สิ่งของต่างๆ) ซึ่งตอนนี้ GPS กำลังเป็นที่นิยมในภาคการขนส่ง และมี SIM โทรศัพท์ด้วย ให้ทำงานร่วมกับเครือข่ายโทรศัพท์เพื่ออัพเดทข้อมูลต่างๆ โดยมีระบบการทำงาน 2 แบบ คือ
1. GPS Tracking แสดงตำแหน่งแบบ Real time
จะแจ้งตำแหน่งผ่านการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถดูตำแหน่งได้แบบ Real time โดยการใช้งานของจีพีเอสในรูปแบบนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง รวมถึงยังต้องเสียค่าบริการให้กับผู้ให้บริการด้วย ทั้งผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์และเซิร์ฟเวอร์ การใช้งานจีพีเอสในรูปแบบนี้จึงนิยมใช้งานกับรถที่เป็นเชิงธุรกิจเป็นหลัก หรือไม่ก็รถที่มีราคาแพง เพราะการใช้งานในรูปแบบนี้จะมีฟีเจอร์อื่นๆให้เลือกใช้งานเพิ่มด้วยอีกมากแล้วแต่ของแต่ละรายไป
2. GPS Tracking แสดงตำแหน่งแบบไม่ Real time หรือแบบกึ่ง
ข้อดีของแบบนี้คือราคาถูกกว่าแบบ Real time และไม่มีค่าบริการรายเดือนในการใช้งานด้วย จึงนิยมที่จะใช้งานในรถยนต์ทั่วๆไปที่ไม่ต้องการดูรายละเอียดมากมายนัก หรือติดตั้งในรถจักรยานยนต์ ซึ่งเท่านี้ก็เพียงพอต่อความต้องการ เพราะอาจจะต้องการแค่ดูตำแหน่งเวลารถหาย โดยการใช้งานก็เพียงแค่ส่ง SMS เข้าไปที่ตัว GPS Tracking ให้ส่งพิกัดกลับมา ซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายในการส่ง SMS เท่านั้น
1.แบบติดตั้งเข้ากับระบบของรถยนต์
จำเป็นต้องมีช่างผู้ชำนาญเป็นผู้ติดตั้ง จำเป็นต้องต่อกับแบตเตอรี่ของรถโดยตรง และยังมีฟีเจอร์อื่นๆให้ใช้งานได้ด้วย เช่น วัดระดับน้ำมัน, สั่งตัดการทำงานเครื่องยนต์, ตรวจจับรอบเครื่องยนต์, ตรวจสอบความเร็ว ฯลฯ
2. แบบติดตั้งเอง
จะใช้ซ่อนไว้ตามจุดต่างๆของรถยนต์ มีแบตเตอรี่สำรองในตัวเองให้สามารถใช้งานได้นาน หรือจะต่อสายไฟเล็กๆเข้ากับแหล่งพลังงานของรถยนต์ ให้ทำการชาร์ตแบตไปในตัวได้ ซึ่งบางรุ่นนั้นแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 6 เดือน โดยไม่ต้องชาร์ตแบต
ถ้าต้องการติดตั้งในรถเพื่อติดตามงานในเชิงธุรกิจนั้น แบบ Real time ดูจะมีความเหมาะสมมากกว่า เพราะมีฟีเจอร์ให้เลือกใช้มากกว่า ทั้งยังนำข้อมูลเหล่านั้นมาประมวลผลและสรุปผลด้านต่างๆให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจอื่นๆได้อีกเยอะ
แต่ถ้าเป็นรถใช้ส่วนตัวแล้ว ไม่ต้องการรู้ข้อมูลอะไรเยอะแยะนอกจากดูตำแหน่งของรถ ซึ่งถ้าจุดประสงค์เพียงเท่านี้จีพีเอสแบบกึ่ง Real time ดูจะเหมาะสมมากกว่า