GPS และ GPRS แตกต่างกันอย่างไร

680 จำนวนผู้เข้าชม  | 

จีพีเอสติดรถยนต์ออนไลน์

GPS และ GPRS เป็นเทคโนโลยีที่มักถูกใช้ร่วมกันในการติดตามตำแหน่งหรือเฝ้าระวังอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น รถยนต์ รถบรรทุก หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ต่าง ๆ

GPS

GPS หมายถึง Global Positioning System ซึ่งเป็นระบบการกำหนดตำแหน่งที่ตั้งโดยใช้สัญญาณจากดาวเทียม เพื่อระบุพิกัดสามมิติของอุปกรณ์ โดย GPS สามารถใช้งานได้ทั้งในพื้นที่กว้างขวาง และมีความแม่นยำสูงถึงหลักล้านเมตร ซึ่งมีประโยชน์ในการติดตามตำแหน่งอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการเดินทางหรือในงานที่ต้องการการเฝ้าระวังตำแหน่ง
การส่งข้อมูลผ่าน GPS เป็นการใช้ระบบการติดตามตำแหน่งที่ใช้งาน GPS ในการส่งข้อมูลไปยังเครื่องรับข้อมูลที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ระบุไว้ใน GPS โดยปกติแล้วข้อมูลที่ส่งผ่าน GPS จะเป็นข้อมูลเชิงพื้นที่ เช่น ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ ความเร็ว ทิศทาง และเวลาที่เกิดเหตุการณ์

เครื่องรับข้อมูลที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ระบุไว้ใน GPS เรียกว่า GPS Receiver หรือ GPS Tracking Device ซึ่งมีหลักการทำงานคือรับสัญญาณจากดาวเทียม GPS และคำนวณหาตำแหน่งที่ตั้งของอุปกรณ์นั้นๆ โดยใช้เทคโนโลยี Global Navigation Satellite System (GNSS) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้สัญญาณจากดาวเทียมเพื่อคำนวณหาตำแหน่งของอุปกรณ์ต่างๆ ในเวลาเดียวกันทั่วโลก


การส่งข้อมูลผ่าน GPS สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ GPS ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ เช่น โทรศัพท์มือถือที่มีฟังก์ชัน GPS หรืออุปกรณ์ GPS Tracker ซึ่งสามารถติดตั้งบนยานพาหนะ เครื่องจักรกล หรือวัตถุอื่นๆ เพื่อให้สามารถติดตามตำแหน่งและส่งข้อมูลได้

เมื่อข้อมูลถูกส่งผ่าน GPS จะถูกเข้ารหัส (Encoding) เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และจะถูกส่งผ่านช่องสัญญาณแบบไร้สาย โดยอาจใช้โปรโตคอลสื่อสารต่างๆ เช่น TCP/IP หรือ UDP ในการส่งข้อมูล และเครื่องรับข้อมูลที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ระบุไว้ใน GPS จะรับข้อมูลเหล่านี้และสามารถแสดงผลหรือนำไปใช้งานต่อได้ตามความเหมาะสม

 

GPRS

GPRS ย่อมาจาก General Packet Radio Service คือเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมที่ใช้สัญญาณแบบดิจิตอลสำหรับการส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ โดย GPRS จะทำงานบนเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่รองรับเทคโนโลยี 2G หรือที่เรียกว่า GSM (Global System for Mobile Communications)

การส่งข้อมูลผ่าน GPRS จะเริ่มต้นจากการแบ่งข้อมูลออกเป็นแพคเก็ตเล็กๆ โดยแต่ละแพคเก็ตจะมีขนาดไม่เกิน 160 บิต และจะถูกส่งผ่านช่องสัญญาณแบบไร้สาย ในระบบเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่รองรับ GPRS

ข้อมูลที่จะส่งไปยังเครือข่าย GPRS จะถูกเข้ารหัส (Encoding) เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และจะถูกส่งไปยังตัวกลางของ GPRS ที่เรียกว่า GPRS Support Node (GSN) โดย GSN จะแยกแพคเก็ตของข้อมูลออกเป็นเส้นทางที่เหมาะสมสำหรับการส่งข้อมูล แล้วส่งต่อไปยังปลายทาง

การส่งข้อมูลผ่าน GPRS จะเป็นการส่งแบบไม่ต่อเนื่อง (Packet Switching) ซึ่งแตกต่างจากการส่งข้อมูลแบบต่อเนื่อง (Circuit Switching) ที่ใช้ก่อนหน้านี้ โดยที่การส่งข้อมูลแบบไม่ต่อเนื่องจะทำให้เครือข่าย GPRS สามารถจัดการทรัพยากรของเครือข่ายได้มีประสิทธิภาพสูง และสามารถส่งข้อมูลได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น


GPRS มีความสามารถในการส่งข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดถึง 114 kbps (kilobits per second) โดยสามารถใช้งานสำหรับการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต การส่งข้อความแบบหลายสื่อ และการแชทออนไลน์ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ทำให้ GPRS เป็นที่นิยมในการใช้บริการโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน

ดังนั้น GPS เป็นเทคโนโลยีการกำหนดตำแหน่งที่ตั้ง ส่วน GPRS เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สายที่ใช้ในการส่งข้อมูล

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้