การติดตั้ง GPS ติดตามรถยนต์

การติดตั้งอุปกรณ์ GPS อาจเป็นไปได้หลายวิธีเพราะในปัจจุบันอาจมีเทคโนโลยีของตัวอุปกรณ์ที่ถูกพัฒนาให้ดีมากขึ้นกว่าก่อน แต่หลักๆที่ยังใช้กันอยู่ในปัจจุบันจะมีอยู่สองแบบใหญ่ ๆ คือ

GPS ติดตามรถยนต์ แบบติดตั้งเอง

ส่วนใหญ่การติดตั้งจะถูกวางหรือซ่อนไว้ตามจุดต่าง ๆ ของรถ และเป็นชนิดที่มีแบตเตอรี่สำรองในตัวเพื่อให้ใช้งานได้นาน หรือมีการต่อสายไฟในรถ รวมไปถึงการเสียบในช่องไฟ 12V (โวลต์)

GPS ติดตามรถยนต์ แบบติดตั้งเข้ากับระบบของรถยนต์

การติดตั้งแบบนี้จะพบได้จากผู้ให้บริการ GPS เพราะการติดตั้งแบบต่อกับสายไฟหรือระบบของรถยนต์ จะทำให้สามารถเพิ่มการใช้ฟังก์ชั่นได้มากกว่าแบบติดตั้งเอง ตัวอย่างเช่น ตรวจจับเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ภายในรถ, ความเร็วรอบรถ เป็นต้น

รวมไปถึงยังสามารถใช้งานร่วมกับ ซอฟแวร์ ที่ผู้ให้บริการใช้อยู่หรือพัฒนาเองได้ เช่น การตั้งขอบเขตที่รถยนต์สามารถวิ่งได้, การแจ้งเตือนต่าง ๆ , หรือการสั่งตัดการทำงานของเครื่องยนต์ ก็สามารถทำได้เช่นกัน

การใช้งาน GPS ติดตามรถยนต์ก็แสนง่าย

อุปกรณ์ GPS ติดตาม (GPS Tracker) ใช้งานค่อนข้างง่าย ยกตัวอย่างเช่นอุปกรณ์ GPS ของ คาร์แทรค จะใช้ซิมการ์ด (SIM Card) ในระบบ 3G ที่สามารถรับส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อคุณให้ช่างติดตั้งอุปกรณ์กับตัวรถแล้ว คุณก็สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นได้ทันที

การใช้งานก็แสนง่าย เพียงคุณเข้าระบบหน้าเว็ปไซต์ โดยใช้ชื่อบัญชีและรหัสตามที่ทางเจ้าหน้าที่ให้ไว้ ก็สามารถติดตามรถของคุณที่ใช้งานระบบติดตาม คุณสามารถปรับแต่งการตั้งแจ้งเตือนแบบต่าง ๆ ได้อีกด้วย

อีกทั้งคุณยังสามารถดูการเส้นทางย้อนหลัง และสร้างกรอบพื้นที่ (Geofence) เพื่อให้คนขับรถขับอยู่ในเขตพื้นที่ที่ต้องการ หรือในกรณีที่รถของคุณหาย ถูกโจรกรรมหรือมีผู้ขับขี่ที่ไม่พึงประสงค์ คุณก็สามารถติดตามรถยนต์ที่กำลังเคลื่อนไหวแบบ Real Time และติดต่อเจ้าหน้าที่ให้ทำการตัดสตาร์ทเครื่องยนต์ได้

วิธีการเลือกซื้อ GPS ติดตามรถยนต์

การเลือกใช้ GPS ติดตามรถยนต์มีปัจจัยในการตัดสินหลายอย่างด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น ขนาด ราคา การบริการ และฟังก์ชั่นการใช้งาน ที่จะทำให้คุณทำงาน หรือธุรกิจ ได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังต้องทำเพื่อให้ถูกต้องตามกฏหมายของกรมขนส่งที่ประกาศให้มีการติดตั้ง GPS อีกด้วย

ซึ่งในท้องตลาดมีอุปกรณ์ GPS ติดตามรถยนต์ให้เลือกอยู่มากมายทีเดียว หากเลือกไม่ดีอาจจะเจอกับของปลอมหรือของไม่มีคุณภาพ ที่จะทำให้คุณเสียทั้งเงิน ทั้งเวลา ซ้ำยังไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เต็มประสิทธิภาพอีกด้วย ข้อมูลต่อไปนี้จึงเป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ GPS ติดตามรถยนต์

ในการเลือกซื้อนั้นส่วนมากรูปร่างของเจ้าตัวอุปกรณ์ GPS Tracking จะมีลักษณะคล้าย ๆ กันหมด แต่จะควรจะเลือกอย่างไร?

พิจารณาจากบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ

บริษัทจะต้องให้ข้อมูล สามารถอธิบายข้อสงสัยของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดีเนื่องจาก GPS Tracking เน้นเรื่องบริการหลังการขาย เมื่อคุณติดตั้งอุปกรณ์ GPS แล้วจะต้องมีการดูแลรักษาในระยะยาว การบริการที่น่าประทับใจ และติดต่อได้ตลอดเวลาเมื่อประสบปัญหา

พิจารณาจากคุณภาพของอุปกรณ์ ประเทศที่ผลิต

แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ที่ถูกผลิตจากประเทศจีนนั้นเราย่อมรู้กันเป็นอย่างดีถึงคุณภาพของมัน แต่ในสมัยนี้ฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดก็คือจีนนั้นเอง ไม่เเปลกหากคุณพบว่า กล่องจีพีเอสของคุณไม่ว่าจะซื้อมาจากไหนทำไมถึง made in China แทบทั้งสิ้น

แต่อย่าเพิ่งกังวลไป ยังมีอุปกรณ์ GPS ที่ถูกผลิตขึ้นและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องอยู่มากมาย ยกตัวอย่างเช่น GPS ของ คาร์แทรค ที่ผลิตขึ้นเองจากประเทศแอฟริกาใต้ และมีการพัฒนาโดยทีมวิจัยของตัวเอง รวมไปถึงโปรแกรมที่ใช้ ก็มีการพัฒนาเพื่อการใช้งานของลูกค้า ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

พิจารณาจากสเปคเครื่อง

สำคัญสุดในการเลือกซื้อ GPS ที่ผู้ใช้จะต้องดู คือจะต้องเจาะจงที่สเปคภายใน เพราะ GPS จะทำงานก็ต้องอาศัยการส่งสัญญาณเช่นกัน อย่างที่เรารู้กันนั้น นั่นคือระบบ GPRS , 2G , 3G หรือ 4G เป็นต้น

ยิ่งความเร็วมากเท่าไหร่ นั้นหมายถึง การรับส่งสัญญาณจะเร็วขึ้น ทำให้การติดตามแบบ Real Time มีประสิทธิภาพและแม่นยำมากยิ่งขึ้น

พิจารณาจากราคา

ในการเลือกอุปกรณ์ GPS Tracking ของดีไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงเสมอไปสำหรับราคาของ GPS Tracking เพราะในปัจจุบัน ผู้ให้บริการส่วนใหญ่ มักมีระบบการชำระเงินที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อลูกค้าและผู้ใช้งาน ทั้งเป็นการเช่ารายเดือน หกเดือน หรือรายปี เป็นต้น

แบบที่ซื้อขาดเอาอุปกรณ์ไปเลยก็มี แต่ก็ใช้ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างมากเช่นกัน ดังนั้นการตัดสินใจนี้ขึ้นอยู่กับสภาพคล่องและความสะดวกของแต่คน ซึ่ง GPS แบบพกพาหรืออุปกรณ์ที่มีราคาถูก เราสามารถหาได้ตามอินเตอร์เน็ตทั่วไป แต่คุณภาพการใช้งาน วัสดุ เทคโนโลยี และการติดตามส่งสัญญาณ อาจเป็นไปตามราคาของมันเช่นกัน

การทดลองใช้ เพื่อทดสอบระบบ

ผู้ให้บริการส่วนใหญ่มักมีระบบการทดลองใช้อยู่หลายที่ คุณสามารถติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทนั้นๆ เพื่อขอทำการทดลองใช้งาน